ถนนหลวง กับ พวงมาลัยซ้าย ครั้งแรก

4:42 หลังเที่ยง

คนส่วนใหญ่ในโลกใบกลมๆ ใหญ่กว่าผลส้มหลายล้านเท่าใบนี้ รู้กันดีอยู่แล้วว่า มาตรฐานการขับรถของชาวโลกมี 2 แบบ คือ พวงมาลัยซ้าย กับพวงมาลัยขวา และคนไทยทุกคน(ยกเว้นเด็กเพิ่งเกิดใหม่) ย่อมรู้ดีว่าประเทศไทยเรานั้น ขับรถพวงมาลัยขวา

ในขณะที่เราเป็นพวกพวงมาลัยขวา เพื่อนบ้านติดกับเรา เกือบรอบประเทศนั้น เขาขับรถพวงมาลัยซ้ายกัน มีลาว เป็นอาทิ ซึ่งแม่ว่าจะมีถนนหนทางทอดยาวข้ามชายแดน เชื่อมต่อระหว่าง 2 ประเทศนี้ เป็นถนนสายเดียวกัน แต่วิธีการขับรถนั้น ต่างกันเหมือนอยู่คนละซีดโลก ถ้าไม่ถูกเบรคไว้ด้วยภูมิทัศน์ข้างทางที่ คล้ายคลึงบ้านเราเป๊ะๆ คงคิดว่า ได้หลุดไปอยู่ ประเทศได้ประเทศหนึ่งในอีกซีกโลกแล้วก็เป็นได้

ความจริง ไม่ได้มีเพียงบ้านเรือนประชาชน ที่เรียงตัวกันแบบห่างบ้าง ถี่บ้างตามความสุนทรียของอาณาเขตส่วนบุคคลแล้ว ยังมีบรรยากาศบนท้องถนนอีกสิ่งหนึ่ง ที่ช่วยปลุกในเราตื่นจากจินตนาการอันเพ้อเจ้อไปไหนแล้วไม่รู้

เราและชาวคณะไปเยือนปากเซ ครั้งนี้ เราได้ว่าจ้างคนในหมู่บ้านที่เราจะไปพักในมาช่วยขับรถพาเราไปเที่ยวด้วย ที่จริงลุงแกแค่มารับเราจากด้านช่องเม็ก ไปส่งที่ที่พักเฉยๆ(คล้ายๆ บริการรถรับส่งจากสนามบินอะไรทำนองนั้น) แต่เราก็ได้ว่าจ้างลุงให้พาเราไป วัดพู กันก่อน ก่อนจะกลับเข้าที่พัก ที่หมู่บ้านหลักสามสิบ(คนที่นี่มักจะตั้งชื่อหมู่บ้านตามหลักกิโลเมตร เก๋ไปอีกแบบ) ซึ่งแน่นอนว่า พวงมาลัยซ้าย ความฮา และเงิบแบบถี่ๆ เริ่มตั้งแต่เปิดประตูขึ้นรถเลยจ๊ะ ด้วยความที่ก็ไม่เคยสัมผัสรถพวงมาลับซ้ายแบบถึงเนื้อถึงตัวแม้แต่ครั้งเดียว บวกกับเบลอเล็กๆ จากการเดินทาง คล้ายๆ เจ็ตแล็กแต่ไม่ใช้ ทำเอาลืมไปสนิทแบบใครสะกิด กูก็ยังไม่รู้ตัว อิฉันเดินหน้าระรื่นไปที่ประตูซ้ายอย่างไม่ต้องสงสัย เปิดผางออกมา เงิบ

...พวงมาลัย!!!

โดยทั่วไปแล้ว เวลาเราขับรถ เราจะต้องขับชิดฝั่งใดฝั่งหนึ่งของถนน ซึ่งแน่นอนว่าต้องไม่ชิดเกินไป จนลงไปตีแปลงกันข้างถนน ประเทศไหนพวงมาลัยซ้ายก็ขับชิดขวา ประเทศไหนพวกมาลัยขวาก็ขับชิดซ้าย จัดกันไปตามที่เห็นสมควร แต่...ที่นี่พิเศษ!!!

ช่วงที่เรามาเยือน แถวๆ ชายแดนตรงจำปาสัก กำลังสร้าง หรือแก้ไขผิวถนนเราก็ไม่แน่ใจ แต่ผิวถนนนั้น ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ มันจึงเต็มไปด้วย ฝุ่น!! ที่หนาสัสๆ เคยขับรถช่วงที่หมอกลงจัดๆ จนมองไม่เห็นทางข้างหน้ามั๊ยล่ะ นั่นแหละ แบบนั้นเลย เพียงแต่หมอกที่นี่ สีส้มๆ ขุ่นๆ ตุ่นๆ สลับหนา สลับบาง และเพื่อความปลอดภัย ต้องขับคร่อมเส้นกลางถนน เบาๆ เป็นระยะๆ ในขณะที่เรากำลังสับสนซ้ายขวา เพราะพวงมาลัยมันสลับข้าง

อยู่ๆ ก็มีรถโดยสารแบบโคตรอเนกประสงค์(ที่บรรทุกได้สารพัดตั้งแต่สากขะเบือยันเครื่องบินรบ) ขับแซงไปอย่างรวดเร็ว แซงไปจากฝั่งขวา ซึ่งเรานั้งอยู่กับเพื่อนอีกคนนึง จินตนาการว่าคุณอยู่ท่ามกลาง มวลหมอก ที่ปิดทัศนวิสัยจนเกือบ 100% เหมือนฉากในละครเวลาตัวเอกของเรื่องกำลังจะตาย วิญญาณออกจากร่างไปอยู่ในที่ที่มีแต่หมอกสีขาวๆ มองไปไม่เห็นอะไรเลย แบบนั้น แล้วอยู่ๆ ก็มีรถคันใหญ่โผล่พรวดเข้ามาจากด้านหลัง แล้วก็พุ่งหายไปต่อหน้าต่อตา...

ฟืบบบบบ...

...
O.O

กูสตันแดกไปหลายวิเลยค่ะ

เมื่อกี้อะไร??

นี่ฉันอยู่ที่ไหน...

มีใครได้ยินฉันไหม...

ไม่ใช่ละ! ภาพที่เห็นมันอดไม่ได้ที่ต้องถามพี่คนขับรถคันที่แซงไปเมื่อกี้เสียงดังลั่นในใจ ว่า “มึงจะรีบไปตายห่าที่ไหนวะสัส” แล้วหันไปมองหน้า คุณลุงคนขับรถของเราเล็กน้อย เผื่อว่าลุงแกอาจจะตกใจเหมือนเรา แต่เปล่า!! ลุงยังปกติ และขับรถคร่อมเส้นกลางถนนต่อไปอย่างสบายอารมณ์ ต่อจากนั้น ก็พุ่งมา จากทางซ้ายทีทางขวาที อีกหลายรอบ

ชิวมากสินะลุง...

ในขณะที่น้องที่มาด้วยกันอีกคนนึง ยังยิงคำถามรัวๆ ใส่ลุงเป็นสำเนียงอีสานแบบที่เราฟังแล้ว ก็เงียบไว้
ไม่คิดจะใส่ซับให้กูกันมั้งเลยนะ...

ความจริง เราพอฟังภาษาอีสานออกนะ แต่ต้องพูดช้าๆ หน่อยใครฟังได้ รู้เรื่อง อาจจะมีบางคำ ที่มันไม่ได้ใกล้เคียงภาษาไทยภาคกลางเลย นั่นก็อาจจะต้องถามคนข้างๆ เฮ๊ย เมื่อกี้คือไรวะ แต่ถ้าเจอประเภทเนทีฟ สปีคกิ้ง รัวๆ ภาษาอีสานก็ไม่ได้ต่างจากภาษาอังกฤษเลยแม้แต่น้อย...

แต่ยังไม่ทันที่จะได้ สปี๊คภาษาอะไร

ปึก!!
เชี่ยกล้องกู!!!

แค่อุทานเบาๆ กับตัวเองในใจ

กล้องที่ถืออยู่ในมือ กระแทกเข้ากับคอลโซลหน้ารถ อย่างไม่เบานัก เนื่องจาก ด้วยดรายไอซ์(ฝุ่นบนถนนเมื่อกี้แหละ) ที่ค่อนข้างแน่น ทำเอาเกือบได้จูบตูดรถคันข้างหน้าเข้าให้ซะแล้วมั๊ยล่ะ

ดีที่ลุงแกขับไม่เร็วมาก เลยเบรคได้ทัน แฮบปี้เอนดิ้ง แม้จะทำให้ชาวคณะบางคนได้ออกเสียง อุทาน วี๊ดว๊าย กันพอหมอปากหอมคอ อิฉันก็ได้ฤกษ์เก็บกล้องเข้ากระเป๋าซะที กะว่าจะเอามาถ่ายวิวข้างถนน แต่ฝุ่นหนาขนาดนี้ เลยได้แค่ จดๆ จ้องๆ ถือๆ แล้วก็กอดไว้ในตัก เท่านั้นเอง...


เสียงน้องที่มาด้วยกันยังจ้อไม่หยุด คนอะไรคุยโคตรเก่ง(อิจฉา คุยไม่เก่งอย่างมัน ฮ่าๆๆๆๆ) มีเสียงชาวคณะ โห่ ฮิ๊ววว วิ๊ดวิ๊ววว กันเป็นทอดๆ ไม่ขาดระยะ แม้เราจะต้องเบรคหัวทิ่มกันอีก 4-5 รอบก็ตาม

1465112_1405740369698078_533866570691487240_n.jpg

รถโดยสารโคตรอเนกประสงค์(ไม่รู้คันเดียวกันหรือป่าว แต่คิดว่าคันเดียวกัน จำอิเจ๊เสื้อสีบานเย็นนี่ได้)  ขับมาเจออีกครั้ง ตอนใกล้จะเข้าปากเซแล้ว

You Might Also Like

0 ความคิดเห็น