Lost Horizon (Bangkok - Lijiang - Shangri La และขอบฟ้าที่หายไป)

10:22 หลังเที่ยง

ทริปนี้เป็นทริปสุดท้ายของปี 2018 ใช้เวลาทั้งหมด 6 วันรวมวันไปกลับ เรามีสมาชิกทั้งหมด 4 คน แปลนกันข้ามปี
ข้ามชาติ ถามว่าแพลนกันนานขนาดนี้ มีหลุดมั๊ย ไม่ค่ะ … ไม่เหลือ

เราปักหมุดกันที่ คุนหมิง โดยเราเดินทางจากกรุงเทพฯ ด้วยสายการบินหางแดง ที่เราตั้งหน้าตั้งตารอกดตั๋วจากโปร
0 บาท กันล่วงหน้าถึง 1 ปี นานมาก เราจึงได้ตั๋วมาในราคาที่ถูกมาก ไปกลับ 6,000 กว่าบาท รวมค่าโหลดกระเป๋า

ถึงคุนหมิงเรามีเวลาไม่มากพอ ประกอบกับโชคดี เราเจอฝนตกตลอดทั้งวัน ชุ่มฉ่ำกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว ทั้งฝม ทั้งลมหนาว
อืมม โคตรฟินค่ะ จากคุนหมิงไปลี่เจียง เราเลือกรถไฟ โดยเราสามารถจองผ่านเว็บ จากไทยไปได้เลย ค่าตั๋วไม่เท่าไหร่
ค่าดำเนินการ ที่ทำเอาเจ็บ พอสมควร

รถไฟพาเรามาถึงลี่เจียงตอนเช้ามืด เราหารถต่อไป จงเตี้ยน หรือ ที่รู้จักกันในชื่อ แชงกรีล่า โดยเราเหมารถจาก ลี่เจียง
ไปอีกที เป็นรถของชาวบ้านแถวนั้นแหละ พูดสวัสดีครับด้วย ท่าทางที่นี่คนไทยมากันเยอะแฮะ ลุงคนขับรถใจดีมาก อยาก
แวะตรงไหนก็แวะ ตรงไหนสวย ก็บอกแวะมั๊ย แวะได้นะ อ่ะสวยก็แวะ แวะกันตลอดทาง แต่สุดท้ายก็ถึงโรงแรม ลุงแกส่งถึง
ที่พัก คุยกับที่พักให้เสร็จสรรพ พอเราได้ห้องเรียบร้อยแล้ว เค้าก็กลับไป

โรงแรมที่เราพักอยู่ในตัวเมืองเก่าแชงกรีล่าเลย ราคาไม่แพง เอาจริงๆ ที่พักที่จีนราคาไม่แพงเลยนะ อุปกรณือำนวย
ความสะดวกครบมาก คืนนึงไม่ถึง 500 บาท ส่วนที่ลี่เจียง ก็เช่นกัน ราคาไม่แรง และเมืองเก่าลี่เจียงเป็นเมืองที่เดินครั้ง
แรกจะงงมาก เดินหลงกันอยู่นาน ไม่ไหวละ เลยไปถาม โรงแรมที่เรากำลังยืนงงกันอยู่ เขาก็พาเราไปหาโรงแรมที่เราจอง
มา ปรากฏว่า โรงแรมปิดปรับปรุง โดยไม่ได้แจ้งล่วงหน้า เออ จะว่าไม่แจ้งล่วงหน้า ก็ไม่ถูก ก็แจ้งอยู่นะ ล่วงหน้า ประมาณ
10 นาทีก่อนเวลาเช็คอิน จ๊ะ แม่คู๊ณณณ ทีนี้ทำไงล่ะ ก็เจ้คนที่พามานั่นแหละ เลยเสนอว่า งั้นพวกลื้อมาพักโรงแรมเจ้มั๊ยล่ะ
เจ้คิดราคาเท่ากับที่พวกลื้อจองมาก็ได้ อ่ะ งั้นไปดูห้องก่อน ปรากฏว่าเออ ก็ดีนะเฮ๊ย สวยเลยอ่ะ เหมือนเดิมอุปกรณ์ครบ
แต่ดูแข็งแรง ปลอดภัยกว่า ที่แชงกรีล่า เยอะมาก งั้นก็ OK Deal!!! ปิด จ็อบวันนี้สวยๆ

อาหารการกินนี่อุดมสมบูรณ์มาก เรียกว่ากินทิ้งกินขว้างกันไปก็เยอะ อันไหนอร่อยก็กิน อันไหนไม่อร่อยก็ทิ้ง
ชาบูหมาล่าเนื้อแยคนี่ดีงามมาก ไซต์เล็กสุด ยังใหญ่มาก มาเป็นกระทะทองแดง เนื้อแยคชิ้นหนาๆ เคี้ยวในน้ำซุปหมาล่า
สีสันแสบตรูดมาก แต่ก็ไม่ได้เผ็ดอย่างที่คิด คือมันอร่อยนั่นแหละ เอาเป็นว่า ชอบอาหารที่นี่มาก แม้แต่อาหารที่คุนหมิง
ก็ชอบนะ ถึงมันจะแบบว่า เอิ่มม ซื้ออะไรที่มันดีกว่านี้กินหน่อยได้มั๊ยวะ ก็เถอะ

แต่สำหรับเรา เด็ดสุด ไม่ใช่สถานที่ แต่เป็น เนื้อแยคเสียบไม้ย่าง บนภูเขาหิมะมังกรหยก กัดเข้าไปคำแรก
อยากจะคายทิ้งมาก แบบเหม็นสาบสุดๆ แค่กัด ยังไม่ต้องเคี้ยว กลิ่นตีขึ้นจมูกทันทีเลย แต่เอาวะ เคี้ยวหน่อย
มันก็แพงอยู่นาาา ปรากฏว่า รู้ตัวอีกที ปาเข้าไปไม้ที่ 10 แล้ว ฮ่าๆๆๆๆๆ มันนุ่ม เด้งสู้ฟันมาก แต่ไม่เหนียว
คือนี่ปกติไม่กินเนื้อ พวกเนื้อ A5 อะไรงี้ ไม่รู้จักหรอก แต่พี่ที่ไปด้วยอีกคนบอกว่า อืมมม ลืมมันไปเถอะ A5 อ่ะ
ได้กินเนื้ออันนี้ กูตายตาหลับละ พี่แกพูดซะอยากลองเนื้อ A5 ขึ้นมาเลย

เรื่องเล่าทริปนี้เยอะมาก เดี๋ยวจะทะยอยกลับมาเล่าเรื่อยๆ ระหว่างนี้ให้รูปเล่าเรื่องแทนไปก่อน...

สรุป ทริปนี้ เจ็บกันไปเท่าไหร่

ระยะเวลา : 6 วัน

ค่าใช้จ่าย ทั้งหมด : 18,834 บาท